หลังจากคิดเงินเสร็จ ในใบเสร็จตามร้านอาหารหลายๆที่ ก็มักจะมีค่า Service Charge 10% หรือค่าบริการ แต่หากในกรณีที่เราต้องการไม่จ่ายนั้น เพราะได้รับบริการที่ไม่ดีสามารถทำได้ไหม โดยในปัจจุบันกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคจะไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้โดยตรง แต่ก็มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น การแสดงราคาสินค้าหรือบริการ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ที่ระบุว่า ราคาสินค้าและบริการ ต้องแสดงราคาต่อหน่วย และต้องมีตัวเลขอารบิกอยู่ด้วย นอกจากนี้ต้องมีข้อความภาษาไทยที่ชัดเจนอ่านได้โดยง่าย
หากผู้ประกอบการแสดงป้ายการเก็บ Service Charge อย่างไม่ชัดเจนหรือไม่ครบถ้วน ก็อาจมีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท แต่อย่างไรก็ตามผู้บริโภคสามารถเรียกร้องกับร้านค้าในการไม่จ่ายได้ หากในกรณีที่ไม่พอใจกับการบริการของร้านค้า อย่างไรก็ตามในทางกฎหมายก็ไม่ได้ครอบคลุมถึงเรื่องการตกลงการไม่จ่าย Service Charge นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการไม่รวมราคา Service Charge กับราคาอาหารเข้าด้วยกัน ทำให้ราคาอาหารหรือบริการที่ออกมาจริงๆก็อาจเพิ่มขึ้นจากราคาในเมนูราคาสินค้าหรือบริการอีกด้วย โดยร้านอาหารหลายที่มักจะตั้งราคาโดยที่ไม่ได้รวม Vat และ Service Charge ไว้ในราคา เช่น 299++ ,359++ เป็นต้น ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนหรือความไม่ชัดเจนในราคาสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคต้องจ่ายด้วย
โดยเมื่อเราไปดูการคิดค่าบริการดังกล่าว เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาที่อาจจะไม่ได้มาในรูปแบบของ Service Charge รวมในบิลเหมือนไทย แต่มาในรูปแบบของ Tip ที่โดยปกติในร้านอาหารต้องให้ประมาณ 15-20% แต่ต่อให้บริการแย่หรืออาหารทานไม่ได้ก็ต้องให้ประมาณ 5% เนื่องจากรายได้โดยปกติของพนักงานไม่เพียงพอ ทำให้ Tip จึงเป็นส่วนสำคัญของค่าแรงด้วย
แต่หากเราไปดูร้านอาหารจำนวนมากในอินเดียจะเก็บค่า Service Charge 5-15% ในบิล แต่เมื่อปีพ.ศ.2565 ภายใต้กฎข้อบังคับใหม่ของกรมคุ้มครองผู้บริโภคอินเดีย ระบุว่า ร้านอาหารต่างๆไม่สามารถเรียกเก็บ Service Charge เป็นค่าเริ่มต้นหรือโดยอัตโนมัติบนใบเสร็จอีกต่อไป นอกจากนี้ยังสั่งห้ามร้านอาหารเรียกเก็บ Tip หรือเงินพิเศษของค่าบริการได้ และไม่สามารถปฏิเสธการให้บริการหรือไม่ให้ลูกค้าที่ไม่อยากจ่าย Tip เข้าร้าน
ท้ายที่สุดเราก็ต้องรอดูต่อไปแม้ว่าเรื่อง Service Charge จะเป็นเรื่องเล็กสำหรับหลายคน แต่เราก็มักจะถูกเอาเปรียบหรือถูกผูกมัดมากเกินไปกับค่าบริการดังกล่าว ซึ่งก็ควรมีกฎหมายที่ระบุด้าน Service Charge อย่างชัดเจน โดยเฉพาะสิทธิในการปฏิเสธของผู้บริโภคได้เมื่อได้รับบริการที่ไม่เหมาะสม นอกจากเหตุผลการปฏิเสธการจ่ายค่า Service Charge จากการติดป้ายไม่ชัดเจนของผู้ประกอบการ เพราะหากเราได้เราได้รับบริการที่ไม่ดี ทำไมเราถึงต้องยอมจ่ายค่าบริการเหล่านั้นด้วย
อ้างอิงข้อมูลจาก
Commentaires